หมายศาลที่ถูกส่งไปตามบ้าน บริษัทหรืออื่นๆนั้น จะส่งโดยพนักงานเดินหมายของศาล เมื่อได้รับไม่ควรตื่นตระหนก หรือเอาไปทิ้งแล้วอ้างว่าไม่ได้รับหมายศาลเด็ดขาด จะอ้างว่าไม่รู้หรือไม่เห็นไม่ได้ สิ่งที่ท่านควรจะทำก็คือ ให้ตรวจสอบรายละเอียดของหมายศาลนั้นว่าเป็นหมายศาลชนิดใด ส่งถึงใคร และให้ปฏิบัติอย่างไร เนื่องจากหมายศาลมีหลายประเภท ทั้งคดีแพ่ง และคดีอาญา เป็นต้น โดยจะขอยกตัวอย่างถึงหมายศาลที่สำคัญและพบเห็นบ่อย มีดังนี้
- หมายเรียก หมายเรียกชนิดนี้จะถูกส่งไปพร้อมกับสำเนาคำฟ้องเสมอ ซึ่งผู้ที่มีชื่ออยู่ในหมายนั้นเป็นผู้ที่ถูกฟ้องและต้องยื่นคำให้การต่อสู้คดี ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เช่น หมายเรียกคดีแพ่งสามัญ จำเลยต้องยื่นคำให้การสู้คดีต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหมาย เป็นต้น
- หมายนัดไต่สวนมูลฟ้อง หมายเรียกชนิดนี้เป็นคดีอาญา ที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีเอง ซึ่งตามกฎหมาย ศาลจะต้องทำการไต่สวนมูลฟ้องก่อนว่า คดีที่โจทก์ยื่นฟ้องมานั้นมีมูลหรือไม่ ถ้ามีมูล ศาลก็จะประทับรับฟ้องไว้ แต่ถ้าศาลเห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล ศาลก็จะสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์ ซึ่งต่างจากผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนแล้วพนักงานสอบสวนก็จะทำสำนวนให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาล กรณีที่พนักงานอัยการฟ้องนี้จึงไม่มีนัดไต่สวนมูลฟ้อง
- หมายเรียกพยานบุคคล เมื่อได้รับหมายเรียกนี้แล้ว จะต้องไปศาล ตามวันและเวลาที่ระบุไว้ในหมาย เพื่อไปเบิกความเป็นพยานต่อหน้าศาล หากขัดขืนไม่ไปตามนัด จะมีโทษตามกฎหมายซึ่งศาลอาจออกหมายจับเอาตัวกักขังได้ เว้นแต่มีเหตุขัดข้องที่ไม่อาจไปศาลในวันนั้นได้ โดยทำหนังสือแจ้งไปยังศาล ถึงเหตุขัดข้องนั้น
- หมายเรียกพยานเอกสารหรือพยานวัตถุ ในคดีแพ่งจะเรียกหมายนี้ว่า คำสั่งเรียกพยานเอกสารหรือพยานวัตถุ ส่วนคดีอาญาจะเรียกว่า หมายเรียกพยานเอกสารหรือพยานวัตถุ ซึ่งผู้ที่มีชื่อในหมายดังกล่าวมีหน้าที่จะต้องส่งเอกสารหรือวัตถุไปยังศาลตามรายการที่ระบุไว้ในหมาย หากขัดขืนจะมีโทษตามกฎหมาย แต่ถ้าหากไม่มีเอกสารและวัตถุหรือมีอยู่แต่เฉพาะบางส่วน ก็สามารถทำหนังสือแจ้งเหตุขัดข้องไปให้ศาลทราบถึงเหตุขัดข้องนั้นได้เช่นกัน
- หมายบังคับคดี เป็นหมายในคดีแพ่ง ที่ศาลมีคำพิพากษาให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้แพ้คดีแล้ว และไม่ยอมชำระหนี้หรือไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจึงขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี เมื่อลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้รับหมายบังคับคดีแล้วมีหน้าที่จะต้องชำระหนี้หรือปฏิบัติตามคำพิพากษา มิฉะนั้นอาจถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สินออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษา
- หมายค้น หมายจับ กฎหมายห้ามมิให้ค้นในที่รโหฐานโดยไม่มีหมายค้นหรือคำสั่งของศาล แต่มีข้อยกเว้นถ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ เป็นผู้ค้น สามารถกระทำได้ในกรณีดังนี้ คือ
- เมื่อมีเสียงร้องให้ช่วยออกมาจากที่รโหฐานหรือมีพฤติการณ์ที่แสดงได้ว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นข้างใน
- เมื่อปรากฏความผิดซึ่งหน้ากำลังกระทำลงในที่รโหฐาน
- เมื่อมีคนร้ายขณะที่ถูกไล่จับหนีเข้าไปหรือมีเหตุสงสัยว่าได้เข้าไปซุกซ่อนตัวอยู่
- เมื่อมีหลักฐานว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายซ่อนอยู่ ซึ่งหากรอหมายค้นสิ่งของนั้นจะถูกโยกย้ายหรือถูกทำลายเสียก่อน
- เมื่อที่รโหฐานนั้นผู้ที่จะต้องถูกจับเป็นเจ้าบ้านและการจับนั้นมีหมายจับ
การได้รับหมายศาลเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นกับคนทั่วไป ดังนั้นถ้าหากท่านได้รับหมายศาลแล้ว ให้อ่านรายละเอียดให้รอบคอบดูว่าเป็นหมายชนิดใด ส่งถึงใคร และให้ปฏิบัติอย่างไร ถ้าหากว่าไม่แน่ใจหรือไม่เข้าใจในข้อความของหมายเรียกนั้น ให้ปรึกษาทนายความเพื่อขอคำปรึกษาและแนวทางการ